นักวิเคราะห์ของ โกลบอลดาต้า บริษัทรับวิเคราะห์ข้อมูลโด่งดังได้ออกมาเปิดเผยว่า ดีลการขาย ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อาจกลายเป็นดีลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในวงการกีฬา หลังจากที่ เอฟเอสจี ประกาศพร้อมขายทีมแบบสายฟ้าแลบเมื่อวันก่อน ตามรายงานจากลิเวอร์พูลเอ็คโค
เจ้าของทีม หงส์แดง อย่าง เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป ได้มีแถลงการณ์ออกมาเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ในประเทศไทย เกี่ยวกับการเปิดรับข้อเสนอจากผู้ลงทุนที่สนใจแล้วก็การพร้อมเปลี่ยนแปลงการเป็นเจ้าของทีมหากมีข้อเสนอที่น่าพอจเข้ามา โดยพวกเขาได้มอบหมายให้ธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งในสหรัฐอเมริกาดำเนินการเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มีรายงานตามมาว่ามูลค่าของลิเวอร์พูล ที่ถูกประเมินไว้โดยนิตยสาร ฟร็อบส์ นั้นสูงถึง 3.6 พันล้านปอนด์ ในขณะที่ คอนราด เวียเซ็ค หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ด้านกีฬาของ โกลบอลดาต้า มั่นใจว่าทางกลุ่มทุนจากอเมริกาตั้งเป้าในการขายสโมสรเอาไว้สูงถึง 4 พันล้านปอนด์ หรือราวๆ5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
“การขายทีมลิเวอร์พูล นั้นประเมินเอาไว้ว่าอาจจะสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงแค่ซีซัน 2022-2023 เพียงฤดูกาลเดียว สโมสรสามารถทำเงินจากการหาผู้ช่วยเหลือเพียงอย่างเดียวได้สูงถึง 160 ล้านดอลลาร์”
ซึ่งถ้าหากการซื้อขายประสบความสำเร็จจะก่อให้ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่มีราคาแพงที่สุดในวงการกีฬา ทำลายสถิติ 4.65 พันล้านดอลลาร์จากการขาย เดนเวอร์ บรองโก้ส์ ทีมอเมริกันฟุตบอลโด่งดังใน เอ็นเอฟแอล เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาลงได้

สื่อดังเผย FSG ประกาศพร้อมขาย ลิเวอร์พูล
เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป หรือ FSG กลุ่มทุนจากอเมริกาออกมาประกาศพร้อมที่จะฟังข้อเสนอในการขอซื้อลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก จากบรรดานายทุนแล้วก็มหาเศรษฐีใหญ่อย่างเต็มที่ หลังจากที่ทำการบริหารทีมมา 12 ปีเต็มนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ตามรายงานจากลิเวอร์พูลเอ็คโค
กลุ่มทุนจากแดนมะกันเข้าเทคโอเวอร์ หงส์แดง จาก ทอม ฮิคส์ แล้วก็ จอร์จ ยิลเล็ค เมื่อปี 2010 ด้วยเงินจำนวน 300 ล้านปอนด์ ในขณะที่หลังจบฤดูกาล 2021-2022 ที่ผ่านมาพวกเขาสามารถสร้างมูลค่าให้กับสโมสรแห่งนี้ได้สูงกว่า 3 .6 พันล้านปอนด์เลยทีเดียว
เอ็คโค อ้างรายงานล่าสุดจาก ดิแอตเลติก โดย เดวิด ออนสตีน ผู้สื่อข่าวโด่งดังได้บอกว่า ทาง FSG กำลังมองหาผู้ลงทุนรายใหม่ที่จะเข้ามาซื้อสโมสรอย่างแข็งขัน แล้วก็พวกเขาได้แต่งตั้งให้ธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งในสหรัฐอเมริกาอย่าง โกลด์แมน แซคส์ แล้วก็ มอร์แกน สแตนลีย์ เป็นผู้ดูแลในกระบวนการนี้ โดยทางเจ้าของลิเวอร์พูล ได้มีการแถลงถึงเรื่องนี้ว่า
“มีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของทีมแล้วก็ข่าวโคมลอยเรื่องการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมของสโมสรใน EPL แล้วก็เราก็ถูกถามไถ่อยู่เสมอๆเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ของ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป อย่างหลีกเลี่ยงมิได้”
“FSG ได้รับความสนใจอย่างสม่ำเสมอจากบุคคลที่สามที่ต้องการที่จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในลิเวอร์พูล FSG ได้เคยกล่าวก่อนหน้านี้แล้วว่าภายใต้ข้อกำหนดแล้วก็ข้อจำกัดที่เหมาะสมเราอาจจะพิจารณาเรื่องผู้ถือหุ้นรายใหม่ถ้าเกิดนั่นคือประโยชน์สูงสุดของลิเวอร์พูล”
“FSG ยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อความสำเร็จของลิเวอร์พูล อีกทั้งในแล้วก็นอกสนามถัดไป”
เจ้าของใหม่ ลิเวอร์พูล ? ใครมีสิทธิ์เข้ามาทำหงส์แดงแทน FSG หลังประกาศขายทีม
หลังจากที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล ได้ออกมาประกาศขายทีมไปเมื่อวานนี้ ทำให้ตอนนี้มีผู้สนใจเข้ามาซื้อสโมสรจากเมอร์ซีย์ไซด์อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนหรือบุคคลก็ตาม
โดยคำแถลงการณ์ที่ FSG ได้ออกมาประกาศก่อนที่โลกฟุตบอลจะบ้าคลั่งบอกว่า
“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของแล้วก็ข่าวโคมลอยเกี่ยวกับการเปลี่ยนเจ้าของสโมสรพรีเมียร์ลีก แล้วก็เราถูกถามอยู่ตลอดเกี่ยวกับความเป็นเจ้าของลิเวอร์พูล ของ Fenway Sports Group” แถลงการณ์กล่าว
“ทาง FSG ได้รับความสนใจจากบุคคลที่สามที่ต้องการเป็นผู้ถือหุ้นของลิเวอร์พูล แล้วก็ FSG ได้กล่าวไว้ก่อนหน้าที่ผ่านมาว่าภายใต้ข้อจำกัดแล้วก็ข้อเสนอที่เหมาะสมนั้น เราจะทำการพิจารณาผู้ถือหุ้นใหม่ หากว่ามันได้ผลสำเร็จประโยชน์สูงสุดต่อสโมสรลิเวอร์พูล”
“FSG ยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อความสำเร็จของลิเวอร์พูล อีกทั้งในแล้วก็นอกสนาม”
แล้วก็นี่คือ 3 ตัวเต็งที่เหมาะสมที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทน จอห์น ดับเบิลยู. เฮนรี ที่แอนฟิลด์ โดยเมื่อ 12 ปีก่อนที่เขาเข้ามาซื้อสโมสรลิเวอร์พูล ด้วยราคาเพียง 300 ล้านปอนด์ (12,858 ล้านบาท) แล้วก็ในขณะนี้ราคาของทีมตอนนี้นั้นสูงถึง 3.5 พันล้านปอนด์ (150,034 ล้านบาท) ด้วยกัน

เรดเบิร์ด แคปิตอล พาร์ทเนอร์ เป็นตัวกลุ่มแรกที่มีสิทธิลุ้นเข้ามาซื้อ ลิเวอร์พูล
โดยพวกเขามีหุ้นในทีมอยู่แล้ว 10 เปอร์เซ็นตอนนี้ เกอร์รี คาร์ดินัล เจ้าของกลุ่ม เรดเบิร์ด ที่เมื่อต้นปีก่อนเขาทำเงินไปถึง 538 ล้านปอนด์ (23,054 ล้านบาท) ได้ออกมาปฏิเสธที่จะเป็นเจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล แบบสุดกำลังเมื่อปีก่อนว่า “เราไม่รับประกันว่านั่นเป็นเป้าหมายของเรา” คาร์ดินัล กล่าว
“ผมจะไม่ตัดตัวเลือกอย่างสโมสรนี้ออกแน่นอนด้วยเหตุว่าด้วยเหตุว่าพวกเขาเป็นทีมที่พิเศษ แต่ผมมีความคิดว่าลิเวอร์พูล อยู่ในมือคนที่เยี่ยมยอดกับกลุ่มทุนปัจจุบัน เรามีหุ้นอยู่ที่นั่นเพียงแค่เล็กๆน้อยๆเพื่อที่จะสนับสนุนสโมสรนี้ไปก่อน แต่ทีมนี้ก็เป็นทีมที่เยี่ยมยอดพร้อมด้วยยังมีเจ้าของทีมที่เยี่ยมยอดด้วยด้วยเหมือนกัน”
ย้อนไปเมื่อเดือนสิงหาคม กลุ่ม เรดเบิร์ด ได้เข้ามาซื้อสโมสรจากอิตาลีอย่าง เอซี มิลาน ด้วยราคา 1 พันล้านปอนด์ (42,861 ล้านบาท) อีกทั้งพวกเขายังมีสโมสรดังในหลาย ๆ ด้านกีฬาที่พวกเขาเป็นเจ้าของด้วยด้วยเหมือนกันอย่าง ตูลูส สโมสรจากลีกเอิงฝรั่งเศส, บอสตัน เรด ซอกซ์ ทีมเบสบอลจากลีก MLB, พิตต์สเบิร์ก เพนกวินส์ ทีมฮ็อกกี้น้ำแข็ง จากสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
โดยหนึ่งในผู้ถือหุ้นที่เป็นคนดังอย่าง เลอบรอน เจมส์ ที่ดูแล้วเขาจะเป็นแฟนของลิเวอร์พูล โดยตรง แล้วก็เขามีสิทธิเข้าร่วมในการซื้อลิเวอร์พูล คราวนี้ได้ ซึ่งในเดือนมีนาคมปีก่อน เจมส์ ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยกับกลุ่ม FSG เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของเขากับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์กับเพื่อนร่วมธุรกิจของเขาอย่าง มาเวอริค คาร์เตอร์ แล้วก็ พอล วากเตอร์
เจมส์ เคยพูดถึงการเป็นเจ้าของทีมใน สมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติ แล้วก็ ทอม แวร์เนอร์ ประธานสโมสรลิเวอร์พูล กล่าวว่าสตาร์ดังของ สมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติ จะเข้ามา “มีอิทธิพล” ในการตัดสินใจของหงส์แดง “ผมยินดีฟังความความเห็นของพวกเขา” แวร์เนอร์ กล่าวถึง เจมส์ แล้วก็หุ้นส่วนทางธุรกิจของเขาว่า “ผมถือว่า มาเวอริค เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทที่สุดของผม”
“ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงบอกคุยกับเขาเกี่ยวกับแท็คติก การฝึกสอน บทเรียนที่ผมได้ทำความเข้าใจจาก เยอร์เกน คล็อปป์ แล้วก็บทเรียนที่เขาได้ทำความเข้าใจในฐานะนักบาสเกตบอลมานานหลายปี เรามีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ๆ ดังนั้นผมกำลังจะพูดด้วยความซื่อตรงจริงเลยว่า ความรู้แล้วก็ประสบการณ์ของพวกเขาจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อเราในอนาคต”
ข้อเสนอจากตะวันออกกลางหลังจากความล้มเหลวของ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก เมื่อปีก่อน มีกล่าวว่า เฮนรี เจ้าของทีมนั้นปฏิเสธข้อเสนอราคาแทบ 3 พันล้านปอนด์ในการยื่นซื้อสโมสรที่มาจากตะวันออกลาง ถึงแม้ว่าการระบาดของโคโรนาไวรัสทำให้หงส์แดงต้องสูญเสียรายได้ไปราว 120 ล้านปอนด์ (5,137 ล้านบาท) ก็ตาม
ซึ่งการตัดสินใจที่จะขายทีมล่าสุด นั้นคงจะดึงความสนใจของกลุ่มทุนหรือบุคคลจากตะวันออกกลางให้เข้ามาซื้อทีมไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยเหตุว่าในตอนนี้จุดยืนของ FSG นั้นเปลี่ยนไปแล้ว
โดยในตอนนี้ก็มีทางด้านของ ชีค คาเลด บิน ซายิด อัล เนฮายัน ที่สนใจจะสโมสรอยู่ด้วยด้วยเหมือนกัน
ชีค คาเลด นั้นเป็นญาติของ ชีค มานซูร์ ผู้ที่เป็นเจ้าของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในตอนนี้ โดยเขาเคยยื่นซื้อสโมสรลิเวอร์พูล มาแล้วสองครั้งในปี 2016 แล้วก็ 2017 ด้วยราคา 2 พันล้านปอนด์ (85,633 ล้านบาท) แต่ก็ล้มเหลวไปทั้งสองครั้ง
ซึ่งย้อนกลับไปในตอนนั้น หงส์แดง ยืนยันอย่างชัดเจนเลยว่าทีมของพวกเขาไม่ได้มีไว้ขาย แต่ในตอนนี้เรื่องมันคงจะกลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องอยากขายทีมให้กับใครสักคนเสียแล้ว
เซอร์ มาร์ติน บรอจตัน
ชื่อที่แฟนๆ ลิเวอร์พูล คุ้นเคยกันดีอย่าง เซอร์ มาร์ติน บรอจตัน นั้นเคยวางแผนที่จะซื้อสโมสร เชลซี เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา นั่นก็เลยเป็นการส่งสัญญาณว่าเขาคงจะกลับมาสนใจในเรื่องของฟุตบอลอีกทีเป็นแน่แท้ ในฐานะอดีตประธานสายการบินบริติช แอร์เวย์ บรอจตัน ได้ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรลิเวอร์พูลในช่วงสั้นๆเมื่อปี 2010 แล้วก็ได้รับเครดิตจากการเป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นให้กับ FSG ราคา 300 ล้านปอนด์ (12,858 ล้านบาท) ของหงส์แดงในตอนนั้น
12 ปีต่อมาเมื่อ โรมัน อับราโมวิช ตัดสินใจที่จะขาย เชลซี บรอจตัน ผู้ที่เป็นแฟนบอลของสิงห์บลูมาตลอดชีวิตได้เข้าร่วมการซื้อขายสโมสรเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ก่อนที่สโมสรจะตกเป็นของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ในที่สุด
ในตอนนี้ไม่แน่ว่าเมื่อมีการประกาศขายสโมสร ลิเวอร์พูล ออกมาแบบนี้ เซอร์ มาร์ติน บรอจตัน ที่กลับมาสนใจในกีฬาฟุตบอล คงจะไม่อยากพลาดการซื้อขายคราวนี้อย่างแน่นอน